เปิด 5 เมกะเทรนด์ ปี 2565 Big Data มาแน่ แนะเร่งปรับใช้ยกระดับธุรกิจ

เปิด 5 เมกะเทรนด์ ปี 2565 Big Data มาแน่ แนะเร่งปรับใช้ยกระดับธุรกิจ

24 มกราคม 2567

       Big Data เปรียบเสมือนด่านสำคัญของการบริหารจัดการและการตัดสินใจเพื่อวางกลยุทธ์ นำธุรกิจให้ทรงประสิทธิภาพ พร้อมแข่งขันในยุคดิจิทัล โดยโรคระบาดโควิด-19 เป็นปัจจัยเร่งให้ทุกคนคุ้นชินกับการใช้เทคโนโลยีและเชื่อมโลกออนไลน์เข้ากับออฟไลน์แบบไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเกิดขึ้นในทุกวินาที ในขณะที่ธุรกิจมีความจำเป็นต้องเร่งปรับใช้ข้อมูลที่รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อการเป็นผู้นำในการแข่งขัน ซึ่งหากช้ากว่าผู้เล่นรายอื่น ก็อาจเสียโอกาสทางธุรกิจและอาจถูกดิสรัปชันไปในที่สุด

       ธุรกิจต้องการความเร็วในการนำข้อมูลไปปรับใช้เพื่อครองใจลูกค้า ซึ่งข้อมูลมหาศาล หรือ Big Data เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจพฤติกรรมเชิงลึกของผู้บริโภค สามารถคาดการณ์ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นและแก้ไขได้ทันท่วงที สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้งเพิ่มประสบการณ์ที่ดีจากการให้บริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า รวมทั้งเพิ่มศักยภาพของระบบภายในองค์กร ซึ่งถือเป็นความท้าทายของภาคธุรกิจที่จะต้องพัฒนาความสามารถในการบริหารจัดการ Big Data จากทุกระบบขององค์กรให้มีความรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดและสร้างความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจ สอดคล้องกับข้อมูลจาก Forrester Research พบว่าธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายด้านรายได้มากกว่าบริษัทที่ไม่เน้นการใช้ข้อมูลถึง 58%

       Blendata เปิด 5 เมกะเทรนด์ของ Big Data ในปี 2565 ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการยกระดับกลยุทธ์ต่าง ๆ ขององค์กร ดังนี้

       1. Real-Time Data การวิเคราะห์ข้อมูลและใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ จะมีความสำคัญมากขึ้น

       จากการแข่งขันทางธุรกิจที่สูงขึ้น ทุกวินาทีจึงมีความสำคัญ ความล่าช้านำมาซึ่งการเสียโอกาสทางธุรกิจไปทันที จากเทคโนโลยีเดิมที่อาจใช้เวลาจัดเก็บและรอประมวลผลวันต่อวัน องค์กรจึงต้องมองหาเทคโนโลยีที่สามารถประมวลผลแบบ Real-Time เพื่อเพิ่มความเร็วในการนำข้อมูลไปปรับใช้สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจต่าง ๆ และสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล การทำ Real-Time Analytics วิเคราะห์และประมวลผล Big Data แบบ Real-Time ช่วยให้สามารถตัดสินใจ แก้ไขปัญหา วางแผน ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ คาดการณ์แนวโน้มต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที หรือในด้านการนำ Real-Time Data ไปปรับใช้เพื่อทำกุลยุทธ์การตลาด เช่น การทำ Personalized Recommendation และ Next Best Action Marketing โดยใช้ Big Data มาช่วยวิเคราะห์ความต้องการและพฤติกรรมเชิงลึกของลูกค้า เพื่อแนะนำสินค้า บริการ หรือโปรโมชันให้ตรงกับความสนใจของลูกค้าแบบเจาะจงรายบุคคุล รวดเร็ว ทันเทรนด์ในช่วงเวลาและช่องทางที่เหมาะสม ซึ่งการที่สามารถวิเคราะห์และปรับใช้ Big Data ได้แบบ Real-Time จะช่วยส่งเสริมการขายให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสในการซื้อมากยิ่งขึ้น

       2. การนำ Big Data มาเสริมเฟรมเวิร์กในระบบ Cybersecurity & Risk

       ธุรกิจและผู้คนต้องพึ่งพาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจและอำนวยความสะดวกให้กับชีวิตมากขึ้น การเก็บบันทึก Data ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมหาศาล เป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภัยไซเบอร์ เช่น การโจรกรรมข้อมูลเพื่อเรียกค่าไถ่หรือ Ransomware ซึ่งนับวันก็ยิ่งทวีความรุนแรง ส่งผลเสียหายต่อข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลธุรกิจเป็นมูลค่ามหาศาล อีกทั้งยังส่งผลเชิงลบกับภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กร

       การมีระบบ Security Analytics คือการตั้งรับการโจมตีทางไซเบอร์ทั้งเชิงรับและเชิงรุก โดยการรวบรวม Big Data ที่เกี่ยวข้องกับ Cybersecurity ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชันบนคลาวด์ หรือข้อมูลบันทึก (Log) ของอุปกรณ์โครงข่าย เพื่อค้นหาสาเหตุ ตรวจสอบเหตุการณ์ย้อนหลังจากข้อมูลที่ถูกเก็บไว้เป็นระยะเวลานาน เพื่อใช้แก้ไขปัญหาหรือวางแนวทางป้องกัน ผนวกกับเทคโนโลยี Artificial Intelligence และ Machine Learning หรือ AI/ML เพื่อเสริมเฟรมเวิร์กทาง Cybersecurity ให้สามารถตรวจจับความผิดปกติได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นจากฐานข้อมูลพฤติกรรมของคนและอุปกรณ์ขนาดใหญ่ที่จัดเก็บไว้ เช่น การคาดการณ์ได้ว่าข้อมูล Transaction ใดอาจกำลังก่อเหตุ Ransomware รวมถึงสามารถแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุผิดปกติได้ทันที การใช้ Big Data ยังครอบคลุมถึงการตรวจสอบการทุจริต หรือ Fraud Analytics ทั้งภายในและภายนอกองค์กร โดยรวบรวมข้อมูลวิเคราะห์พฤติกรรมผิดปกติที่เข้าข่ายการทุจริต เช่น บัญชีธนาคารลูกค้าถูกโอนเงินออกจำนวนมหาศาล หรือมีหลายบัญชีถูกโอนเงินออกพร้อมกัน ซึ่งการตรวจสอบการทุจริตได้อย่างรวดเร็วช่วยจะสามารถลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้

       3. การใช้ Big Data เพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์ Omni-Channel Customer Experience

       การแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบัน เป็นยุคที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า จึงเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ โดยองค์กรจะต้องพัฒนาการสร้างประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) ให้ดีตลอด Customer Life Cycle เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่าและเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ให้ได้รับการบริการแบบ Real-Time ไม่ว่าลูกค้าจะใช้บริการผ่านช่องทางออฟไลน์หรือออนไลน์ ซึ่งทุกช่องทางจะถูกรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ตามวิธีคิดของกลยุทธ์ Omni-Channel เพื่อบริการที่ราบรื่นไม่มีสะดุด ทั้งนี้ Big Data ที่รวบรวมจากทุกช่องทาง เช่น ข้อมูลจาก Offline Store ข้อมูลจาก Call Centre ข้อมูลคงคลัง ข้อมูลการขาย จนถึงข้อมูลที่เกิดขึ้นในยุคโควิดอย่างโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรือ Online Store ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ คือกำลังสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์ Omni-Channel Customer Experience โดยรวมเป็นศูนย์ข้อมูลเพื่อให้เห็นทุกกิจกรรมของลูกค้าในลักษณะ Customer 360 และใช้วิเคราะห์พฤติกรรมเชิงลึกของลูกค้าอย่างละเอียด เพื่อนำมาพัฒนา แก้ไข ปรับปรุง และนำไปต่อยอดในการบริหารการขาย รวมถึงพัฒนาบริการและสินค้าชนิดใหม่

       4. ปีสำหรับการเปลี่ยนเทคโนโลยีจัดการข้อมูลแบบเก่าเป็น Big Data เพื่อลดค่าใช้จ่ายทางด้านสารสนเทศให้กับองค์กร

       การจัดการและประมวลผลข้อมูลโดยใช้เทคโนโลยีแบบดั้งเดิม ที่องค์กรอาจมีใช้งานเป็นปกติอยู่แล้ว เช่น การสร้างข้อมูลรายงานการขายประจำวัน การดูรายงานคงคลังประจำเดือนจากระบบฐานข้อมูลปกติ ซึ่งปัจจุบันเมื่อข้อมูลเริ่มมีขนาดใหญ่ และจัดเก็บอยู่ในหลายระบบ จึงทำให้เกิดค่าใช้จ่ายรวมถึงค่าดูแลรักษาระบบจัดการข้อมูลแบบเดิมที่ค่อนข้างสูง เมื่อถึงยุคปัจจุบันที่มีปัจจัยความเสี่ยงภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ เช่น โควิด ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในระยะยาว การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นโดยการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมต่องานมากขึ้น อย่างการเปลี่ยนหรือลดภาระการประมวลผลข้อมูลบนระบบเดิมมาใช้เทคโนโลยี Big Data จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่องค์กรควรพิจารณา ทั้งนี้ การบริหารข้อมูลในรูปแบบ Big Data ยังช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จาก Data ได้อย่างเต็มที่ ทั้งในด้านการเข้าถึงข้อมูล และการประมวลผลข้อมูลได้คราวละมาก ๆ แต่ทำได้รวดเร็ว รวมถึงปลดล็อกขีดจำกัดในการวิเคราะห์ข้อมูลรูปแบบใหม่ ๆ ช่วยให้ธุรกิจสามารถแข่งขันกับตลาด โดยมีต้นทุนทางสารสนเทศโดยรวมที่ต่ำลงอีกด้วย

        5. Data Citizen ใคร ๆ ก็เข้าถึง Data ได้

       ในยุคที่องค์กรต่างปรับตัวสู่การเป็น Data-Driven Organization แต่การเข้าถึง Data ในหลายองค์กรยังถูกจำกัดอยู่แค่ในฝ่าย IT ทีมเทคนิค หรือทีม Data เท่านั้น ซึ่งทำให้องค์กรไม่สามารถผลักดันการทำกลยุทธ์ Data-Driven ให้เกิดกับทุกการทำงานและการตัดสินใจได้ Data Citizen คือคอนเซ็ปต์ที่ทำให้ทุกคนในองค์กรสามารถใช้ Data ในการวิเคราะห์และตัดสินใจได้ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานระดับผู้บริหารจนถึงระดับปฏิบัติการ โดยสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตามสิทธิ์การใช้งาน ซึ่งเครื่องมือที่จะสามารถสนับสนุนแนวคิดนี้ให้เป็นจริงได้ ก็คือ Big Data ที่รวบรวมข้อมูลไว้เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงและใช้งานข้อมูลได้ง่ายดาย ถึงแม้ไม่มีความรู้ทางด้านเทคนิค

       Big Data คือหนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญของการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนในทุกสถานการณ์ แต่ในหลายองค์กรยังมีข้อจำกัดมากมายในการบริหารจัดการ Big Data ทำให้ต้องมองหาเครื่องมือที่สามารถเข้าไปแก้ไขข้อจำกัดเหล่านั้น Blendata-Enterprise คือ Effortless และ Simplified Big Data Platform ที่ตอบโจทย์ทุกขั้นตอนการจัดการ Big Data ตั้งแต่รวบรวมข้อมูล จนถึงการนำข้อมูลไปใช้ ในแบบ Code-free พร้อมจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่แบบ Real-Time ช่วยเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจพร้อมสำหรับทุกการแข่งขันด้วยเวลาที่รวดเร็ว ลดเวลาและลดความซับซ้อนในการเข้าถึงข้อมูล แม้ผู้ใช้งานไม่มีความรู้ด้าน IT หรือ Big Data ช่วยให้องค์กรลดการลงทุนทางด้านบุคลากรเทคนิคเฉพาะด้าน ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ไลเซนส์ และการบำรุงรักษา ด้วยการรวบรวมทุกฟังก์ชันในการจัดการ Big Data ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว แบบ All-in-one อีกทั้งยังสามารถนำข้อมูล Big Data ที่มีอยู่ในมือไปต่อยอดเพื่อยกระดับธุรกิจในด้านอื่น ๆ ได้อย่างอิสระและรวดเร็ว

Relate Contents

อัพเดทความรู้เกี่ยวกับ Big data การวิเคราะห์ข้อมูล เทรนด์ และข่าวสารที่น่าสนใจ

Blendata นำเทคโนโลยี Big Data ไทย คว้ารางวัลระดับนานาชาติจาก APICTA 2023 ดันเทคโนโลยีไทยก้าวสู่ระดับโลก
เบลนเดต้า (Blendata) นำแพลตฟอร์ม Blendata Enterprise เทคโนโลยีบริหารจัดการ Big Data ครบวงจรสัญชาติไทย คว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 บนเวทีระดับประเทศ TICTA - Thailand ICT Awards 2023 หลังเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งขันต่อในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และได้คว้ารางวัล Merit Award ในระดับนานาชาติจากเวที APICTA - The Asia Pacific ICT Alliance Awards 2023 ณ ประเทศฮ่องกง ในประเภท Business Services สาขาย่อย ICT Services Solutions เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติที่รวมตัวแทนจากประเทศในเอเชียแปซิฟิก เพื่อค้นหาสุดยอดเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมที่มีคุณค่าต่อสังคมและธุรกิจ ชูจุดเด่นแพลตฟอร์มบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่แก้ปัญหาด้าน Big Data ขององค์กรธุรกิจได้จริง ใช้งานง่าย สามารถวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็วทันต่อการแข่งขันธุรกิจโลกดิจิทัล
Blendata นำเทคโนโลยี Big Data ไทย คว้ารางวัลระดับนานาชาติจาก APICTA 2023 ดันเทคโนโลยีไทยก้าวสู่ระดับโลก
เบลนเดต้า (Blendata) นำแพลตฟอร์ม Blendata Enterprise เทคโนโลยีบริหารจัดการ Big Data ครบวงจรสัญชาติไทย คว้ารางวัลชนะเลิศอันดับ 1 บนเวทีระดับประเทศ TICTA - Thailand ICT Awards 2023 หลังเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าแข่งขันต่อในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และได้คว้ารางวัล Merit Award ในระดับนานาชาติจากเวที APICTA - The Asia Pacific ICT Alliance Awards 2023 ณ ประเทศฮ่องกง ในประเภท Business Services สาขาย่อย ICT Services Solutions เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติที่รวมตัวแทนจากประเทศในเอเชียแปซิฟิก เพื่อค้นหาสุดยอดเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมที่มีคุณค่าต่อสังคมและธุรกิจ ชูจุดเด่นแพลตฟอร์มบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่แก้ปัญหาด้าน Big Data ขององค์กรธุรกิจได้จริง ใช้งานง่าย สามารถวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็วทันต่อการแข่งขันธุรกิจโลกดิจิทัล
Blendata ลุยขยาย Ecosystem จับมือพันธมิตรเอเชีย Smart Minds ยกระดับโซลูชันด้านโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APEC)
เบลนเดต้า (Blendata) ผู้พัฒนาเทคโนโลยีบริหารจัดการ Big Data อัจฉริยะ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับบริษัท Smart Minds ผู้ให้บริการโซลูชันโลจิสติกส์ชั้นนำในประเทศฮ่องกง ผสานศักยภาพด้านการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ของ Blendata พร้อมความเชี่ยวชาญด้านระบบโลจิสติกส์ของ Smart Minds
Blendata ลุยขยาย Ecosystem จับมือพันธมิตรเอเชีย Smart Minds ยกระดับโซลูชันด้านโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APEC)
เบลนเดต้า (Blendata) ผู้พัฒนาเทคโนโลยีบริหารจัดการ Big Data อัจฉริยะ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับบริษัท Smart Minds ผู้ให้บริการโซลูชันโลจิสติกส์ชั้นนำในประเทศฮ่องกง ผสานศักยภาพด้านการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ของ Blendata พร้อมความเชี่ยวชาญด้านระบบโลจิสติกส์ของ Smart Minds
ข้อดีของการทำ Hyper-Personalization ในยุคที่ ‘ข้อมูล’ คือแกนหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ
ยุคดิจิทัลคือยุคที่ข้อมูลสามารถเชื่อมโยงโลกทั้งใบเข้าด้วยกัน ข้อมูลมหาศาลนั้นสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์กับธุรกิจได้อย่างหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือการทำ Hyper-Personalization ที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าได้จำนวนมากขึ้น พร้อมสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้มากกว่าเดิม และยังเป็นเทรนด์ที่มาแรงที่สุดในสองสามปีที่ผ่านมา นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ จะสามารถยกระดับธุรกิจสู่ศักยภาพที่เหนือกว่าด้วยการใช้ประโยชน์จาก ‘ข้อมูล’
ข้อดีของการทำ Hyper-Personalization ในยุคที่ ‘ข้อมูล’ คือแกนหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ
ยุคดิจิทัลคือยุคที่ข้อมูลสามารถเชื่อมโยงโลกทั้งใบเข้าด้วยกัน ข้อมูลมหาศาลนั้นสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์กับธุรกิจได้อย่างหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือการทำ Hyper-Personalization ที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าได้จำนวนมากขึ้น พร้อมสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้มากกว่าเดิม และยังเป็นเทรนด์ที่มาแรงที่สุดในสองสามปีที่ผ่านมา นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ จะสามารถยกระดับธุรกิจสู่ศักยภาพที่เหนือกว่าด้วยการใช้ประโยชน์จาก ‘ข้อมูล’

Relate Contents

อัพเดทความรู้เกี่ยวกับ Big data การวิเคราะห์ข้อมูล เทรนด์ และข่าวสารที่น่าสนใจ

เริ่มต้นกำหนดทิศทางธุรกิจ
ด้วยข้อมูลในมือคุณ
เริ่มต้นกำหนด
ทิศทางธุรกิจ ด้วย
ข้อมูลในมือคุณ
ค้นหาโอกาสใหม่ ๆ ที่ซ่อนอยู่ในข้อมูล ด้วยเทคโนโลยี Big data

We use cookie to give you the best online experience Please let us know if you agree to all of these cookie.

We use cookie to give you the best online experience Please let us know if you agree to all of these cookie.

©2021 Blendata. All right reserved.

©2021 Blendata. All right reserved.